เกี่ยวกับเรา
ติดต่อสอบถาม หรือ สอบถามข้อมูลได้ที่นี่
สถานที่ตั้งร้าน | |
ที่ตั้ง : | 146/6-7 ถ.บุรินทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง |
จังหวัด : | นครราชสีมา |
รหัสไปรษณีย์ : | 30000 |
ประเทศ : | ไทย |
โทรศัพท์ : | 083-1000055 |
อีเมล : | Forgiftland@gmail.com |
เว็บไซต์ : | http://www.forgiftland.com |
แผนที่ : | - |
รูปแบบการจัดงานพิธีมงคลสมรส
ก่อนจะมีการวางแผนจัดงานแต่งงาน ส่วนที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ลำดับการจัดงาน แม้ว่าเราจะไปงานแต่งงานญาติสนิท มิตรสหาย มาหลายครั้ง
หรือแม้แต่ได้รับการ์ดเชิญมาโดยตลอด และค่อยซึมซับมาเรื่อยๆ แต่เมื่อถึงงานของเราเองกลับหาข้อสรุปไม่ได้
เนื่องจากมีขั้นตอนหลายอย่างที่ไม่ได้อยู่ในวิถีชีวิตประจำวันของเรา
ทีมงาน ฟอร์กิฟท์แลนด์ จึงขอสรุปโดยรวม เพื่อให้การลงกำหนดการงานแต่งงานเป็นไปได้ง่ายขึ้นนะคะ
1. ก่อนอื่นเราควรคุยกันว่า จะจัดงาน ณ สถานที่ไหนก่อน
ถ้าเป็นงานแต่งงานที่โรงแรมก็สะดวกหน่อย แต่ค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างสูง เพราะจะมีการนำเสนอเหมาจัดงานให้พร้อม บางสถานที่รวมไปถึงแถมพัก 1 คืนวันส่งตัวให้ด้วย
ถ้าเป็นจัดที่บ้าน อาจเป็นอาคาร หอประชุม ลานอเนกประสงค์ใกล้บ้านก็จะสะดวก เหมาะกับคู่ที่มีทีมงานช่วยเหลือเยอะ เพราะรายละเอียดค่อนข้างมาก
หรือบางท่านพิธีกรรมจัดที่บ้าน แล้วไปจัดเลี้ยงอีกสถานที่หนึ่งก็ได้ค่ะ เพราะที่บ้านอาจไม่มีพื้นที่เพียงพอ
2. เราควรจัดงานเวลาไหน ต้องตามฤกษ์เวลาที่พระท่านให้มาหรือไม่ หรือถือเป็นฤกษ์สะดวกไปเลย
โดยทั่วไปการจัดงานแต่งงาน จะมีแบบดังต่อไปนี้
2.1 แบบเลี้ยงอาหารแขกเหรื่อ ก่อนแล้วค่อยทำพิธีแต่งงาน
รูปแบบกำหนดการ วันที่........................................................เวลา 06.00 น. ขอเชิญร่วมรับประทานอาหาร เวลา 08.00 น. พิธีแห่ขันหมาก เวลา 09.00 น. พิธีสู่ขวัญคู่บ่าวสาว
2.2 แบบเลี้ยงเย็น พิธีเช้า งาน 2 วัน
รูปแบบกำหนดการ วันที่ 1....................................................เวลา 18.00 น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เย็น เสร็จพิธีขอเชิญร่วมรับประทานอาหาร
วันที่ 2....................................................เวลา 07.00 น. คู่บ่าวสาวทำบุญตักบาตร เวลา 08.00 น. พิธีแห่ขันหมาก เวลา 09.00 น. พิธีมงคลสมรส
2.3 แบบยอดนิยม พิธีช่วงเช้าเดียวจบเลย
รูปแบบกำหนดการ วันที่........................................................เวลา 07.00 น. พิธีสงฆ์ เวลา 08.00 น. พิธีแห่ขันหมาก เวลา 09.00 น. พิธีหลั่งนํ้าพระพุทธมนต์และประสาทพร เวลา 11.00 น. ขอเชิญร่วมรับประทานอาหาร หรือ เสร็จพิธีขอเชิญร่วมรับประทานอาหาร
2.4 แบบพิธีช่วงเช้า เลี้ยงช่วงเย็น
รูปแบบกำหนดการ วันที่.....................................................เวลา 07.00 น. พิธีสงฆ์ เวลา 08.00 น. พิธีแห่ขันหมาก เวลา 09.00 น. พิธีหลั่งนํ้าพระพุทธมนต์และประสาทพร เวลา 18.00 น. ขอเชิญร่วมรับประทานอาหาร ณ สถานที่................................................................
รายละเอียดคร่าวๆก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ บางท่านถือเลขมงคล เวลาก็จะลงท้ายด้วยเลข 9 เช่น 08.09 หรือ 09.09 น. สรุปกำหนดการได้แล้ว ก็มาเลือกการ์ดแบบการ์ดแต่งงานได้เลยค่ะ
การ์ดแต่งงานแบบไหนดี
ใช่แล้ว...!!! การ์ดแต่งงานมีหลายแบบ หลายสไตล์ให้เลือกค่ะ ก่อนอื่นกำหนดงบประมาณในใจ ไม่เกินเท่าไหร่ก่อน เพราะการ์ดที่อ่านข้อความได้
เหมือนกัน ราคากลับแตกต่างกัน เริ่ม 5 บาทไปจนเฉียด 60-100 บาทเลยก็มี เพราะว่าวัตถุดิบในการทำการ์ด ความหนาบางของกระดาษขนาดของการ์ด รูปแบบ สีสรรของตัวอักษร การตกแต่งการ์ด รวมถึงซองรูปแบบต่างๆ เหล่านี่ส่งผลโดยตรงกับต้นทุนในการทำการ์ดแต่งงานทั้งสิ้น
ต่อมาคือเลือกโทนสีที่ต้องการ ธีมงานสีอะไร การ์ดก็ควรเป็นแนวเดียวกัน
ขนาดและรูปแบบ หมายถึง แบบสำเร็จรูปทั่วไปแล้วใส่ข้อความอย่างเดียวเลย หรือจะเอาขนาดตามที่ต้องการ รูปแบบขอออกแบบใหม่ไปเลย
รูปแบบ การ์ดแต่งงาน อยากได้แบบหน้าเดียว แผ่นเดียว สไตล์มินิมอล หรือ มีลูกเล่นด้วยการ เพิ่มโลโก้บ่าวสาว ไว้อีกด้าน รวม 2 หน้า แบบเก๋ไก๋
บางท่านชอบการ์ดแบบพับ เพราะแจกผู้ใหญ่ดูเหมาะสม หรือชอบแบบแผ่นใหญ่ๆ อ่านชัดเจนดูภูมิฐาน หรูหรา บางท่านชอบแบบใส่ภาพถ่าย เพราะมีรูปสวยๆ
อยากแชร์ให้เพื่อนๆดูบ้างเป็นที่ระลึกจะได้รู้จักเจ้าบ่าวเจ้าสาวในเบื้องต้น ภาพถ่ายไม่จำเป็นต้องมาจากแพคเกจราคาสูง เพราะเดี๋ยวนี้กล้องในมือถือก็นำมาใส่การ์ดแต่งงานได้ คุณภาพแทบไม่ต่างกันเพราะเป็นภาพขนาดเล็ก แต่ถ้าจะขยายใหญ่ อันนี้แนะนำร้านสตูดิโอค่ะ
จำนวนการ์ดแต่งงาน คำนวณจากที่เคยจัดงานมาคร่าวๆ หรือกะจากจำนวนโต๊ะที่สั่งไป นั่ง 8 คนหรือ 10 คน เพื่อจะได้ไม่เกินมากไป การสั่งพิมพ์การ์ดแต่งงานแต่เนิ่นๆ มีข้อดีคือไม่ต้องสั่งจำนวนมากทีเดียว แล้วทยอยเพิ่มเป็นลอตร้อยใบไปเรื่อยๆเรทราคาก็จะได้ไม่ต่างกัน เพราะเวลาผ่านไป เราจะค่อยนึกออกทีละคนสองคน รวมๆแล้วจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ บางท่านใช้แบบซองเวียน เพราะขาดนิดหน่อย เพื่อนเราทั้งนั้น ช่วยๆ กัน เพราะถ้าเพิ่ม 10-20 ใบเรทราคาแทบจะใกล้เคียง 100 ใบเลย
เวลาสั่งทำการ์ด อย่าลืมเผื่อซองด้วยนะคะ ร้านรับพิมพ์การ์ด ส่วนมากไม่ได้รับพิมพ์หน้าซองให้เรา ดังนันเราจึงต้องนำซองกลับมาพิมพ์เอง จ่าหน้าเอง ซองก็จะมีเสียบางส่วน บางท่านเลือกการ์ดแต่ลืมนึกถึงซอง ซึ่งไม่มีในท้องตลาด กลับไปที่ร้านรับพิมพ์การ์ด ถ้าเป็นโรงพิมพ์ที่รับพิมพ์การ์ดโดยตรงก็ไม่ค่อยมีปัญหา เพราะการรับผิดชอบสูง สามารถสั่งซองมาเพิ่มให้ได้ แต่บางร้านจะเป็นร้านส่งต่อโรงพิมพ์ ไม่มีสตอคซอง การสั่งเฉพาะซองค่อนข้างยุ่งยาก ก็ตัดปัญหาแจ้งว่า ซองหมด สั่งไปแล้วของยังไม่มา ประมาณนี้ ทางแก้คือตอนสั่งการ์ดแจ้งไปเลยว่ารับซองเพิ่มต่างหาก ถ้าเหลือเราก็เก็บไว้ใช้หน้างานหรือไว้เวลาใส่ซองช่วยงานคนอื่นได้ค่ะ
การเลือกของชำร่วย
ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของเจ้าของงานนะคะ เพราะเวลาเข้าไปในร้านของชำร่วย ก็จะมีแต่ของน่ารักจัดวางเรียงไว้เต็มไปหมด คนขายก็พยายามเชียร์ของที่มีอยู่แล้ว
ความตั้งใจที่พกมาก็จะค่อยๆแปรสภาพไป บางท่านก็ขอกลับไปคิดดูก่อน ขอถ่ายภาพไปปรึกษาคนรอบข้าง หรือขอดูว่างบประมาณไหวไหม เพราะ
ยิ่งเชิญแขกเหรื่อมาก จำนวนของชำร่วยก็จะต้องมากตามไปด้วย อาทิเช่น พิมพ์การ์ดแต่งงาน 200 ใบ ของชำร่วยควรเผื่อประมาณ 50-100 ชิ้นค่ะ
เพราะอะไรหรือคะ???
เพราะว่าบางท่านเราไม่ได้แจกการ์ด เป็นการบอกกล่าวแบบโทรไป ไลน์หา อีเมลมา หรือเวลาไปในงานมีขอเผื่อคนโน้น คนนี้ และที่สำคัญคือคนที่ได้รับการ์ดไม่สะดวกมาร่วมงานแต่ฝากซองมาแสดงความยินดี บางท่านแจกการ์ดใบเดียว แต่มาร่วมงานกันยกครัว เนื่องจากสนิทสนมกันมาก วันสำคัญอย่างนี้พลาดไม่ได้แน่ๆ จึงทำให้เราควรเผื่อจำนวนไว้ เข้าทำนอง เหลือดีกว่าขาด นอกจากว่าตัดใจหมดแล้ว หมดเลย อันนี้ไม่ว่ากัน ซึ่งปัญหาที่ตามมาคือยอดรวม พอคูณจำนวนแขกแล้ว ยอดไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ ของชำร่วยแสนน่ารัก ที่เล็งไว้ ก็อาจต้องผสมกันหลายแบบ หรือเปลี่ยน PACKAGING ของชำร่วย ให้ใหม่ หรืออาจดึงงบตัวอื่นมาเสริมทัพแทน
นอกจากปัญหางบประมาณของชำร่วยแล้ว บางท่านก็ต้องการของชำร่วยที่สื่อถึงความเป็นบ่าวสาว ก็จะมีพวงกุญแจอาชีพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทหารอากาศ ทหารบก ทหารเรือ ตำรวจ พยาบาล ข้าราชการใส่ชุดขาว คุณครู คุณหมอ ทนายความ วิศวกร เหล่านี้เป็นต้น
จากยุคสมัยที่เปลี่ยนไป หลายท่านมองว่าของชำร่วยไม่ควรเป็นของที่วางไว้เฉยๆ ในจำนวนเงินที่เราได้จ่ายไป เราควรมอบของชำร่วยที่ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำว้น
เครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ จึงถูกนำมาดัดแปลงเป็นของชำร่วยรูปแบบน่ารักๆ มากมาย อาทิเช่น ของชำร่วยช้อนส้อม ,ของชำร่วยปากกา, กระเป๋าสตางค์ ,ที่เปิดขวด,
แก้วเป๊ก,สมุดโน๊ต,ผ้าขนหนู,ถ้วยเซรามิค,แก้วกาแฟ,ชามอาหาร เป็นต้น การสื่อถึงความหมายของชำร่วยแต่ละอย่างก็เริ่มลดลงไปเรื่อยๆ ประโยชน์ใช้สอย ราคาและคุณภาพ ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
ลูกค้าบางท่านตัดปัญหาเรื่องของชำร่วย ด้วยการถามเพื่อนว่าอยากได้อะไร แล้วมาโหวตกัน บางท่านก็ถามคนขายเลยว่า ตอนนี้เค้าแจกอะไรกัน เพราะของชำร่วยจะมีตัวยอดฮิตเข้ามาเป็นช่วงๆ เหมือนล่าสุดก็คือฮิตเรื่อง แก้วใส่กล่องสีสรรต่างๆ
มาที่เปิดขวดรูปการ์ตูนบ่าวสาว ผ้าขนหนูแพคเกจน่ารักๆ เปลี่ยนแนวไปเรื่อยๆ เป็นเหมือนสินค้าแฟชั่นประเภทหนึ่ง
ลูกค้าบางท่านตัดสินใจที่จะนำเหรียญหรือธนบัตรมาใส่ ซองธนบัตร ตกแต่งเป็นของชำร่วย เหตุผลคือ "เค้าต้องไม่ทิ้งแน่ๆ" อันนี้ก็เป็นแนวทางนำมาเล่าสู่กันฟังนะคะ ส่วนจะตัดสินใจแบบไหน ก็ต้องแล้วแต่เจ้าของงานอีกที ถ้ามีเวลาอย่าลืมมารีวิวให้เราทราบด้วยนะคะ
ว่าของชำร่วยที่เลือกได้เป็นอะไร เผื่อเป็นไอเดียเพื่อนๆ ว่าที่เจ้าสาวคนต่อไปค่ะ